เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นภาพนี้ ภาพที่ชั้นวางของเกลี้ยงสนิด
ไม่ว่าจะเป็นที่มินิมาร์ทเล็กๆหรือห้างซุปเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่
เราแตกตื่นกันว่าจะขาดแคลนสินค้าน้ำดื่มขึ้นราคาสามสี่เท่า
ข้าวสารอาหารแห้งเริ่มขาดตลาด
I bet you’ve all seen pictures like this. Pictures of shelves wiped
completely bare. No matter whether it’s a little minimart or a huge
supermarket, we’re all afraid of good running out, of the price of
bottled water tripling or even quadrupling, of rice and dry goods
disappearing.
ไหนจะไม่แน่ใจอีกว่าครอบครัวของตัวเองจะตกเป็นผู้ประสบภัยติดอยู่ในบ้านเป็นเวลานานหรือเปล่า
หลายคนจึงเริ่มซื้อไปกักตุนจากที่ซื้อน้ำที่ละ 2 ขวดต้องซื้อที่ละ 10 ขวด
ของขาดตลาดยิ่งซื้อเยอะของก็ยิ่งหมดเร็ว
พอหมดเร็วเราก็เริ่งกลัวว่าจะหาซื้อไม่ได้ ทันทีที่ของมาก็ซื้อเยอะ
ยิ่งซื้อเยอะของก็ยิ่งหมดเร็ว
เร็วจนชวนให้สงสัยว่าเราอยู่ในภาวะขาดแคลนสินค้าจริงรึเปล่า
When people can’t be sure whether or not their family will be stuck at
home for ages, they start hoarding. Before they bought two bottles of
water; now they buy ten, just in case it all runs out. The more people
buy, the quicker it disappears. And when it runs out, we start worrying
that we won’t be able to find it again, so when it appears on the
shelves again we rush to buy lots. When we buy lots, it runs out
faster. So fast that we begin to wonder: “Is this a real goods
shortage?”
เราลองถอยมาดูภาพรวมที่ผลิตทั้งประเทศกัน เริ่มต้นที่น้ำดื่ม
ปกติแล้วเราบริโภคน้ำดื่มกันคนละประมาณ 2
ลิตรต่อวันรวมคนไทยทั้งประเทศจะดื่มน้ำวันละ 134
ล้านลิตรในขณะที่เรามีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่วันละประมาณ 2 พันล้านลิตร
ผลพวงจากน้ำท่วมโรงงานผลิตน้ำดื่มทั่วประเทศ10,000 แห่ง
สูนเสียกำลังการผลิตไป 30 เปอร์เซ็นต์ทำให้เรายังเหลือกำลังการผลิตอีก
1,400 ล้านลิตรต่อวันถ้าเทียบกับการบริโภคน้ำดื่มของคนทั้งประเทศแล้ว
น้ำยังเพียงพอต่อความต้องการชนิดที่สามารถเก็บไว้ในโหนกอูฐได้อีกวันละประมาณ
6ล้านตัว
Let’s stand back and look at the picture appearing across the country
as a whole. First, water. Normally we drink around 2 litres of water
per day, which means that on an average day the population consumes 134
millions litres. Production capacity is around 2,000 million litres.
But as a result of the flooding, the 10,000 drinking water plants
across the country have lost around 30% of their production capacity.
That means we can still produce 1,400 million litres per day. That’s
easily sufficient to meet the country’s needs, or enough to store in
the humps of 6 million camels.
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางยี่ห้อก็เร่งเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นจาก 6ล้าน/วัน
เป็น7ล้าน ซอง/วันหนำซ้ำเอาวันอาทิตย์เป็นวันหยุดมาช่วยผลิตเพิ่มอีก
The production of some brands of instant noodles has actually been
increased from 6 million packets per day to 7 million. Factories are
even being kept open on Sundays so that more can be produced.
แล้วไข่ละกำลังการผลิตไข่ไก่โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 25-27 ล้านฟอง/วัน
น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลให้เราต้องสูนเสียพื้นที่ฟาร์มไข่ไก่ในจังหวัดอยุธยา
สิงห์บุรี อ่างทองคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 5
เปอร์เซ็นต์ของฟาร์มไข่ไก่ทั้งหมด
จากการสูนเสียดังกล่าวส่งผลให้ไขไก่หายไปจากระบบประมาณ 1-2 เปอร์เซนต์
And eggs? Normally the country would produce around 25-27 million eggs
per day. The floods have damage poultry farms in Ayutthaya, Singburi
and Ang Thong provinces, around 5 % of the total land given over to egg
production. As a result, around 1-2% of eggs have disappeared from the
system.
การขนส่งโลจิสติกส์เป็นอีกสาเหตุหลักของปัญหา
แน่นอนว่าน้ำท่วมรถก็วิ่งไม่ได้ 1 ในการแก้ไขปัญหาก็คือการใช้เส้นทางอ้อม
การขนส่งบางเส้นทาง ต้องยอมขับรถอ้อมอีกกว่า 100
กิโลเมตรเพื่อให้สินค้าจากแหล่งผลิตมุ่งตรงมาสู่จุดกระจายสินค้าได้
สินค้ายังมาถึงได้เหมือนเดิม ที่เพิ่มมากขึ้นคือเวลาที่ใช้ในการขนส่ง
Transportation, or logistics, is another major cause of problems. When
it floods, vehicles can’t go anywhere. One way to solve the problem is
to use an indirect route. In some cases, this means adding an extra 100
kilometres or more to the journey in order for the good to get from the
production plant to the distribution centre. The goods still get there
– it simply takes longer.
ดังนั้นเมื่อเรากวาดสินค้าจนหมดจากชั้นจึงเป็นไปได้ที่จะมีช่วงเวลารหว่างรอสินค้าที่ชั้นว่างเปล่า
ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักและแน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนทำคือการถ่ายรูปและอัปโหลดลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค
ภาพซุปเปอร์สโตร์ที่ว่างเปล่าจะถูกเผยแพร่ออกไปที่แล้วที่เล่า
จนทุกคนอาจพากันคิดว่าถ้าของมาต้องรีบซื้อ
That means that when we sweep the shelves clean, we might have to wait
until more goods arrive. We don’t often see bare shelves, so lots of
people are taking photos and uploading them onto social networking
sites. These pictures spread everywhere, leading people to believe that
if goods arrive they need to rush to buy them.
ปริมาณการซื้อสินค้าหลายชนิดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ยอดขายน้ำดื่มในซุปเปอร์สโตร์เมื่อต้นเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นกว่า 40
เปอร์เซ็นต์จากปลายเดือนกันยายนรวมถึงอาหารสำเร็จรูปและไข่ไก่เองก็เช่นกัน
เปรียบเทียบง่ายๆว่าจากที่น้ำ 100 ขวดเคยหายหมดภายใน 1
ชั่วโมงแต่ในช่วงภาวะน้ำท่วมน้ำ 100 ขวดอาจขายหมดได้ภายในเวลา 20 นาที
The purchase of some goods has simply rocketed. At the beginning of
October, sales of drinking water in superstores rose by over 40%
compared to the end of September. The same happened to ready-made food
and eggs. If 100 bottles of water used to be sold in one hour, during
the floods they would sell in 20 minutes.
อีกเรื่องหนึ่งที่อาจตอบคำถามเราได้ว่า เราอยู่ในภาวะขาดแคลนสินค้าจริงรึเปล่าการสำรวจตลาดสดหลายแห่งพบว่าสินค้าต่างๆที่ว่าขาดตลาดในซุปเปอร์สโตร์ยังมีขายตามปกติในร้านขายของชำเล็กๆไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม
ข้าวสารอาหารแห้งหรือ
Another thing that should help us determine whether it’s a real food
shortage is to look at the smaller retailers. They are still selling
goods as normal. If you look at the fresh goods markets, you can see
that the products which have been wiped off the supermarket shelves are
still being sold as normal in the stalls, whether drinking water, rice
or dried food.
แม้แต่วัสดุก่อสร้างจำพวก ซิลิโคน ปูนขาวที่ว่าขาดตลาด
ก็ยังคงหาซื้อได้ในร้านขายวัสดุก่อสร้างเล็กๆทั่วไป
เรามองแต่ชีวิตแบบที่เราคุ้นเคยรึเปล่าเมื่อเห็นที่ที่เราไปช็อปปิ้งประจำของหมด
เราก็อาจเผลอคิดไปว่าทุกที่จะต้องหมดเหมือนกัน
อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะความไม่รู้
หลายคนกลัวว่าน้ำจะท่วมจนไม่สามารถออกมาซื้อของได้จึงต้องซื้อให้มากไว้ก่อนเพราะเราไม่รู้ว่าต้องซื้อแค่ไหนถึงจะเพียงพอ
Even construction materials such as silicone and lime, which people are
saying have run out, are being sold in smaller builder’s merchants. Can
we not see beyond what we’re used to? When we see that goods have run
out in the places where we normally do our shopping, we might think
that they’ve sold out everywhere. Partly it’s because we don’t know
whether or not it will flood. We don’t know if we’ll be stuck at home,
so we go out and buy lots of goods, as we don’t know how much will be
enough.
ถ้าเรารู้ความต้องการของผู้บริโภคแต่ละวันเราอาจจะประเมินความต้องการคร่าวๆของแต่ละครอบครัวได้
นักวิชาการสาขาโภชนะวิทยาระบุว่าผู้ชายจะรับประทานข้าวสารประมาณ 2
ขีดต่อวันหรือเท่ากับข้าวสวย 10 ทัพพีในขณะที่ผู้หญิง
เด็กและคนแก่อยู่ที่ประมาณ 1 ขีดหรือ 6 ทัพพี ดังนั้นครอบครัวขนาด 4
คนจะรับประทานข้าวสารบรรจุถุง 5 กิโลกรัม 1 ถุงภายในเวลาประมาณ 9 วัน
วิชาสุขศึกษาบอกเรามาตั้งแต่เด็กว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 8
แก้วหรือประมาณ1.5-2 ลิตร นั่นแปลว่าครอบครัวขนาด 4
คนดื่มน้ำบรรจุขวดขนาดเล็ก 1โหลภายในเวลา 1
วันสำหรับกรณีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้าเรารับประทานตลอดวันโดยไม่มีอย่างอื่นเลยจะให้พลังงานเพียงพอที่ประมาณ
4-5 ซอง/วัน แต่ถ้ากินแบบนี้ทุกวันก็อาจมีผลกระทบอื่นๆตามมา
If we know roughly how much each person consumes a day, we can make a
rough estimate of how much each family needs. Nutritionists say that
men need around 200g of rice a day, or around 10 spoonfuls of steamed
rice. Women, children and elderly need around 100g, or 6 spoonfuls.
That means that a 4–person household consisting of parents, a son and a
daughter get through one 5kg bag of rice approximately every 9 days.
Ever since we were little, hygienist have been telling us that we need
to drink 8 glasses of water a day, or around 1.5-2 litres. That means
that a 4-person family will drink a dozen small bottles of drinking
water a day. If we only ate instant noodles every day and nothing else,
we’d get sufficient energy from 4-5 packets. Although eating only
instant noodles every day isn’t such a good idea.
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆของการคำนวณความต้องการการบริโภคในแต่ละวัน
ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ที่เรารวบรวมไว้ด้านล่างแล้วลองนำไปคำนวณความต้องการของครอบครัวคุณนะครับ
แน่นอนว่าการตุนข้าวของไม่ใช่เรื่องผิดเพราะในภาวะน้ำท่วมอย่างนี้เราต่างไม่รู้ว่า
เราจะต้องตกเป็นผู้ประสบภัยเมื่อไหร่และนานแค่ไหนนั่นจึงทำให้เราตุนข้าวของต่างๆด้วยความไม่รู้แต่ถ้าหากเราตั้งสติอีกสักนิด
ศึกษาให้มากขึ้นเราก็จะสามารถตุนข้าวของอย่างมีสติมากขึ้นได้
ทีนี้ทุกครั้งที่อยู่หน้าชั้นวางสินค้าลองคิดอีกสักนิดก่อนหยิบว่าเราต้องการมันจริงรึเปล่าเพราะในขณะที่มันเกินความต้องการของเรา
มันอาจเป็นสิ่งที่ขาดในความต้องการของใครอีกหลายคน
These are just little examples of how to calculate your daily
consumption needs. For more information, click on the links below, and
calculate your own family’s daily needs. There’s nothing wrong with
hoarding goods. We can’t know if and when we’re going to fall victim to
the floods, or for how long. It’s this uncertainty that makes us hoard.
But if we think a little bit, and study a bit more, we can hoard good
more sensibly. Next time you look at an empty shelf, think: “Did I
really need that?” Because if it’s more than we need, it might mean a
shortage for lots of other people.
|